นุ้ก สงขลา และ หมู ปากน้ำ ในช่วงบ่ายวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ห้องปริ้นเซส โรงแรมเดอะศิตาปริ้นเซส จ.บุรีรัมย์ กลายเป็นสนามเดือดเมื่อสองนักสอยคิวระดับพระกาฬของไทยต้องเผชิญหน้ากันในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ ศึก I‑EA‑T บุรีรัมย์ คัพ 2025 นั่นคือ นุ้ก หรือ กฤษณัส เลิศสัตยาทร มือวางอันดับ 2 ของประเทศ และเจ้าของแชมป์สมัยก่อน ต้องปะทะกับ หมู ปากน้ำ หรือ นพพล แสงคำ มืออาชีพอันดับ 33 โลก ที่ได้สิทธิ์ไวลด์การ์ดเข้ามาแข่งขัน
การเผชิญหน้านี้ไม่ใช่แมตช์ธรรมดา มันคืองานอีเวนต์ที่รวมเงื่อนไขหลากหลายเข้าด้วยกัน ทั้งเรื่องแรงกิ้งอันดับ ความเก๋าของนุ้ก และคุณภาพไม่ธรรมดาของหมูในฐานะนักอาชีพโลก รวมถึงกติกาสำหรับนักอาชีพระดับโลกอย่างหนึ่ง ที่ต้องต่อให้คู่แข่ง 7 แต้มทุกเฟรม ยิ่งสร้างความท้าทายให้กับแมตช์นี้อย่างยิ่ง
นุ้ก สงขลา ได้เห็น หมู ปากน้ำ โชว์ศักยภาพระดับโลก
เกมเปิดเริ่มต้นในเฟรมแรก แม้หมูจะต้องรับเงื่อนไขต่อ 7 แต้ม แต่เขากลับเปิดเกมด้วยฟอร์มที่เด็ดดวง ยิงเบรกเกิน 100 แต้มถึงสองครั้ง เคาะออกมาเบรก 112 แต้มในเฟรมแรก และ 126 แต้มในเฟรมสี่ การแสดงพลังครั้งนี้ทำให้เขากวาดสองเฟรมสำคัญไปครองด้วยสกอร์ที่ทิ้งห่างชัดเจน ติดตาม ผลสนุ๊ก
หมู จึงนำห่างเป็น 3-1 เฟรม ประชันไฟและความมั่นใจว่าเขาไม่ได้มาเล่นเป็นแค่ภัยใกล้ตัว แต่เขาคือนักกีฬาที่จะกดดันให้คู่แข่งต้องล้มเลิกความคิดเดียวคือชนะ
นุ้ก สะกิดจังหวะ ตื่นจากความฝัน
แม้สถานการณ์จะดูยากเย็นสำหรับนุ้ก การตามหลัง 1-3 เฟรมทิ้งห่าง และเงื่อนไขต่อแต้มกลับยิ่งทำให้โอกาสดูลอยไกล แต่แฟนสนุกเกอร์หลายคนยกให้เขาเป็น “นักสู้ดั้งเดิม” ของไทย ความนิ่ง ความเก๋า และการอ่านเกมคือจังหวะที่ฮีโร่ตัวจริงจะปรากฏ
เฟรมที่ 5 นุ้กเริ่มต้นทิ้งหมูแทนด้วยการโชว์จังหวะแม่นยำ เบรกได้ต่อเนื่องจนชนะเฟรมสำคัญนี้กลับมาในสกอร์ที่เฉือนเพียงไม่กี่แต้ม สร้างแรงกระแทกจิตใจให้กับทั้งสนาม และจุดเริ่มต้นที่เขาจะกลับมาคุมเกมใหม่
เกมยิ่งบันดาลใจ เกมสะท้อนความใจแข็ง
หลังจากพลิกชนะในเฟรมที่ 5, เฟรมต่อมาเป็นการเบรกเกมขนาดใหญ่ของ นุ้ก การควบคุมลูกสี และการสั่งปั้นคิวเพื่อจบเฟรมอย่างเฉียบขาด ส่งผลให้เขาเสมอสกอร์ที่ 3-3 เรียบร้อย
ในเฟรมชี้ชะตาเกมที่ 7 แรงกดดันสูงขึ้น ความตึงเครียดของผู้เล่นสะท้อนผ่านสายตา พื้นสนามดูลึกลับกว่าทุกครั้ง แต่กลับกลายเป็นว่านุ้กใช้ประสบการณ์ทั้งชีวิตโอบกอดและพลิกจังหวะมาใช้คู่ต่อกรได้อย่างสวยงาม
เมื่อเขาเบรกแล้วปิดเกมอย่างเด็ดขาดด้วยสกอร์ 4-3 ชัยชนะอันพลิกโลกก็เกิดขึ้น
เบื้องหลังวงวินาทียิ่งใหญ่
การกลับมาของนุ้กไม่ใช่เรื่องบังเอิญ การฝึกซ้อมที่ไม่ลด ความตั้งใจที่ไม่โรยรอ้ และความเชื่อมั่นในความสามารถตัวเอง คือองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เกมนี้ไม่ได้เป็นแค่เกมที่พลิก แต่เป็นเกมที่บ่งบอกว่า “เก๋าอย่างมีประสบการณ์มีพลังยิ่งนัก”
แฟน ๆ ในสนามต่างลุกขึ้นเชียร์อย่างบ้าคลั่งเมื่อสกอร์เสมอที่ 3-3 และเงียบกริบเมื่อเฟรมสุดท้ายจบลงด้วยชัยชนะของนุ้ก
ถ้วยรออยู่ตรงหน้า โค้งสุดท้ายของฝัน
หลังแมตช์สุดระทึก นุ้ก สงขลา จะได้เข้าไปชิงชนะเลิศแมตช์ใหญ่กับ “โฟน อุบล” ณรงค์เดช ตาขันทอง ซึ่งเป็นแมตช์ชิงที่่แฟนสนุกเกอร์จับตามองอย่างยิ่ง เพราะถ้วยรางวัลตำแหน่งป้องกันแชมป์รออยู่ตรงหน้า
ชัยชนะเหนือหมูครั้งนี้ไม่ใช่แค่การผ่านเข้ารอบ แต่คือการตอกย้ำว่าความเก๋าและประสบการณ์คือสินทรัพย์อันประเมินค่าไม่ได้บนเวทีแรงกิ้งของไทย
ความหมายและภาพใหญ่ที่สะท้อน
แรงรุ่นใหม่ได้พลัง
ชัยชนะครั้งนี้ของนุ้กกลายเป็นแรงรุ่นใหม่ให้หลายคนที่อาจคิดว่าความฝันรุ่นใหญ่จบไปแล้วได้ลุกขึ้นอีกครั้ง แรงกิ้งครั้งนี้จึงไม่เพียงแค่คะแนน แต่คือสิ่งที่เติมพลังให้กับวงการ
ประสบการณ์ไม่เคยโกหก
เกมพลิกชนะ 4-3 กับนักอาชีพระดับโลกคือบทพิสูจน์ว่าความนิ่ง วินัย และการอ่านเกมล้วนถูกฝึกฝนจากสนามจริง และจะกลับมาช่วยเมื่อต้องการจริงๆ
อนาคตบันไดต่อไป
หากนุ้กสามารถคว้าถ้วยไปครองได้อีกครั้ง จะช่วยยกระดับอันดับแรงกิ้งในประเทศ เขาอาจกลายเป็นตัวแทนทีมชาติไทยสำหรับรายการใหญ่ในปีหน้า ทั้งซีเกมส์ และแรงกิ้งโลก
แมตช์นี้ วัดทั้งฝีมือ วัดทั้งใจ
แมตช์ระหว่าง นุ้ก สงขลา กับ หมู ปากน้ำ คือภาพสะท้อนของการแข่งขันที่ไม่ได้วัดแค่ฝีมือ แต่ยังวัดใจ ชัยชนะครั้งนี้ของนุ้กไม่ใช่เพียงเรื่องของการฝ่าฟัน แต่คือบทเรียนบนสนามจริงว่าความหวังไม่มีวันดับ หากยังมีใจและไม่ยอมแพ้
เกมที่พลิกห้าช็อตอันลือลั่นในรอบรองชนะเลิศจึงเป็นทั้งบทเพลงเกียรติประวัติและแผนที่ชี้ทางให้กับวงการนักสอยคิวไทยว่า “เก่าไปใหม่มา ยังหยัดยืนและเดินต่อได้”
ชัยชนะนี้เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้แฟน ๆ 147สนุกเกอร์ รอคอยการชิงชนะเลิศอย่างใจจดใจจ่อ เพราะมันไม่ใช่แค่แมตช์ แต่เป็นตัวแทน ‘จิตวิญญาณนักสู้ของเราตลอดไป’